• SCADA: ตรวจสอบสถานะและควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ แบบ Real-time เช่น ระบบไฟฟ้า ระบบประปา ระบบรวบรวมน้ำเสีย
     • Energy Management System (EMS): แสดงปริมาณการรับจ่ายสาธารณูปโภคแบบ Real-time โดยรับข้อมูลมาจาก Smart Meter ที่ติดตั้งใน Tie-in Building และสามารถคำนวณค่าบริการรวมถึงออกใบแจ้งหนี้
     • Building Management System (BMS): ตรวจสอบสถานะและควบคุมการทำงานของอุปกรณ์งานระบบของอาคาร เช่น ระบบปรับอากาศ Access Control ระบบลิฟต์ ระบบไฟส่องสว่าง ระบบ Fire Alarm ระบบจ่ายไฟฟ้า ระบบ Public Address
     • Security Management System (SMS): แสดงผล ควบคุม และสั่งการ ระบบ CCTV ระบบ Fire Alarm ระบบ Smart Parking ระบบ Network Monitoring System ระบบ Bus Tracking ระบบ Environmental Monitoring System ระบบ Emergency Phone
     • Substation Automation System (SA): ตรวจสอบสถานะและควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ระบบจำหน่ายไฟฟ้าภายใน Substation
     • Lighting Control System : ตรวจสอบสถานะและควบคุมการทำงานของระบบไฟส่องสว่างของอาคารต่าง ๆ ภายใน Utility Center
Smart Meeting Room รองรับผู้เข้าร่วมประชุมได้ประมาณ 40 ท่าน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก ดังนี้
     • ระบบประชุมทางไกล (Teleconference) พร้อมกระจกไฟฟ้าเปลี่ยนสถานะเป็นใสหรือขุ่น เพื่อให้ผู้ร่วมประชุมสามารถมองลงมายังห้อง Control Room ได้
     • จอ VDO Wall แบบ 3x3 ขนาดจอ 55 นิ้ว และจอแสดงผลขนาด 75 นิ้ว จำนวน 2 ชุด
     • จอ Smart Touch-screen Interactive Display ขนาด 70 นิ้ว สามารถเขียนหน้าจอและบันทึกลงคอมพิวเตอร์ หรือส่งทางอีเมลได้
     • แสดงผลบนจอภาพโดยการเชื่อมต่อแบบไร้สายกับคอมพิวเตอร์ Tablet โทรศัพท์มือถือ
     • สั่งงานอุปกรณ์ไฟฟ้าด้วยเสียงหรือระบบไร้สายผ่าน Tablet เช่น ลำโพง สวิตช์ควบคุมไฟแสงสว่าง
• Innovation and Design
        - ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง ใช้หลอด LED ทั้งหมด โดยออกแบบให้ค่าความสว่างผ่าน ตามเกณฑ์มาตรฐานพอดี เพื่อประหยัดพลังงาน
        - มีบันไดแบบเปิด และเข้าถึงได้ตลอดทุกชั้น เพื่อส่งเสริมการเดิน แทนการใช้ลิฟต์ และมีแสงธรรมชาติที่เพียงพอในทุกชั้นของบันได
     • Location and Linkages
        - มี Bus Terminal สำหรับรับ-ส่งประชากรในพื้นที่ด้วยรถโดยสารสาธารณะ (EV Bus) เพื่อให้ประชากรสามารถเดินทางไปยังสถานที่อื่นๆ ภายในพื้นที่วังจันทร์วัลเลย์ได้อย่างสะดวก
        - จำนวนที่จอดรถ ผ่านจำนวนขั้นต่ำตามกฎหมาย โดยมีที่จอดสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) พร้อมอุปกรณ์ชาร์จไฟ และที่จอดสำหรับ Green Vehicle (รถยนต์ที่ลดการใช้น้ำมันอย่างมีนัยยะสำคัญ)
     • Water Efficiency
        - เลือกสุขภัณฑ์ประหยัดน้ำที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถประหยัดน้ำได้มากกว่า มาตรฐานทั่วไปของ LEED ถึงกว่า 50%
     • Energy and Atmosphere
        - ออกแบบตำแหน่งช่องเปิดของอาคาร เพื่อให้ได้รับแสงธรรมชาติมากแต่มีความร้อนส่งผ่านเข้ามาภายในอาคารน้อย
        - ออกแบบกันสาด และระแนงบังแดดที่เหมาะสมกับตำแหน่งช่องเปิดของอาคาร เพื่อลดความร้อนเข้าสู่กระจก
        - เลือกใช้กระจก Low-E ที่มีประสิทธิภาพในการกันความร้อนได้ดี แต่ส่งผ่านแสงธรรมชาติได้มาก
        - ควบคุมไฟฟ้าแสงสว่างด้วย Sensors เช่น Motion Sensor หรือ Daylight Sensor เพื่อปิดดวงโคมตำแหน่ง ที่ไม่จำเป็น หรือเวลาไม่มีผู้ใช้งาน
        - เลือกใช้ Chiller ที่มีค่าประสิทธิภาพสูง ตามมาตรฐาน ASHRAE 90.1 "Energy Standard for Buildings Except Low-Rise Residential Buildings"
     • Material and Resource
        - มีการจัดการขยะจากการก่อสร้าง มากกว่า 75% ของปริมาณขยะทั้งหมด โดยการบริจาค ขายหรือรีไซเคิล หรือนำกลับมาใช้ใหม่
     • Indoor Environment Quality
        - มีระบบ Air Intake ของอาคารที่สามารถดักฝุ่นควัน เพื่อลดปริมาณฝุ่นและ มลภาวะที่จะเข้าสู่อาคาร
        - มีการหมุนเวียนอากาศใหม่เข้ามาในพื้นที่ใช้งาน ตามมาตรฐาน ASHRAE 62.1- 2010 "Ventilation for Acceptable Indoor Air Quality"
        - มีการติดตั้ง CO2 Sensor ในพื้นที่ที่มีการใช้งานหนาแน่นอย่างห้องประชุม และ เมื่อ CO2 เกินกว่าค่าที่กำหนด Alarm จะแจ้งเตือนทันที
        - พื้นที่ใช้งานประจำ มากกว่า 75% ได้รับแสงธรรมชาติในปริมาณที่เพียงพอ เพื่อลดการใช้ไฟฟ้าแสงสว่างภายในอาคาร